อยากเปิดธุรกิจโรงกลึงเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มต้นอย่างไร
ในปัจจุบัน หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจโรงกลึง แล้วก่อนจะเริ่มธุรกิจโรงกลีงต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
เวลาและสถานที่
04 ก.ค. 2566 08:00 – 17:00
Minsen Machinery Co.,Ltd.
เกี่ยวกับอีเวนท์
ทิศทางการเติบโตของธุรกิจโรงกลึงนั้น จะขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนของภาคการลงทุนและเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากว่าโรงกลึงคือส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สนับสนุนการผลิตที่นอกเหนือจาก อุตสาหกรรมหล่อโลหะ อุตสาหกรรมขึ้นรูปโลหะ อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนทางกลและทางไฟฟ้าที่เป็นส่วนสำคัญในการประกอบกิจการเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและยังเชื่อมโยงกับสาขาการผลิตอื่นๆ อีกมากมายผ่านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล ซึ่งในปัจจุบัน หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น Start Up หรือเป็นเจ้าของธุรกิจโรงกลึง หรือมองว่าสามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่าการทำงานประจำ ถ้าหากสามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตและไปได้ดี แล้วก่อนจะเริ่มธุรกิจโรงกลีงต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
เงินลงทุนและฐานลูกค้าธุรกิจโรงกลึงเป็นหนึ่งธุรกิจที่จำเป็นจะต้องมีเงินลงทุนในเครื่องจักรกล (Machine Tools) เพื่อผลิตชิ้นงาน ซึ่งในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวไกล ทำให้เครื่องจักรมีทั้งแบบสำเร็จรูปและสามารถออกแบบได้ตามความต้องการของผู้ประกอบการ โดยมีช่วงราคาตั้งแต่หลัก xx,xxx ไปจนถึง xxx,xxx หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าโรงกลึงจะต้องผลิตชิ้นงานใดให้กับลูกค้าบ้าง
อีกทั้งสิ่งที่จะสามารถทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้คือฐานลูกค้า นั่นเอง ซึ่งจากที่ได้ทำการค้นคว้าในหัวข้อนี้จากผู้มีประสบการณ์หลายท่าน ได้ให้ความคิดเห็นไว้ดังนี้
- หากจะเปิดโรงกลึงเป็นของตัวเอง จะต้องมีประสบการณ์หรือเคยทำงานสายตรงจากโรงงานหรือบริษัทฯ ขนาดใหญ่มาก่อน เพราะจะทำให้เห็นถึงกระบวนการผลิตได้ในทุกขั้นตอน
- การมีฐานลูกค้าอยู่แล้วก่อนเริ่มเปิดธุรกิจ สำหรับคำว่า “ฐานลูกค้า” ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปวิ่งหาลูกค้าใหม่แบบ 100% แต่เป็นการที่พนักงานประจำที่เคยทำงานในบริษัทฯ ที่ผลิตชิ้นงานอยู่แล้ว แตกไลน์ออกมาช่วยผลิตและส่งให้กับบริษัทฯ แม่อีกที ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้ธุรกิจโรงกลึงสำหรับ Start Up สามารถดำเนินต่อไปได้และมีโอกาสเติบโตมากกว่าลงทุนแล้วยังไม่สามารถหาลูกค้าเองได้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น โอกาสล้มเหลวในธุรกิจนี้ค่อนข้างสูงมากทีเดียว
ธุรกิจโรงกลึง ถือเป็นธุรกิจที่ต้องมีทักษะ ประสบการณ์ ความชำนาญและความเชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่องจักรกล (Machine Tools) อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถทำให้ธุรกิจโรงกลึงดำเนินต่อไปได้และสามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้ดี มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน
มีความรู้เรื่องการตลาด (Marketing Strategy)การตลาดมีพื้นฐานและหลักการตลาดที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งเจ้าของกิจการอาจไม่จำเป็นต้องเก่งหรือทฤษฎีแน่นแบบนักกลยุทธ์ แต่เหตุผลที่ทำไมการถึงสำคัญนัก ก็เพราะการทำการตลาด สามารถช่วยให้ธุรกิจเกิดการมองเห็นสู่ผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ การตลาดสามารถช่วยให้เกิดการซื้อขาย หรือพูดง่ายๆ ว่า “ขายของได้” นั่นเอง และไม่เพียงแค่นั้น นอกจากจะสามารถปิดการขายได้แล้ว ต้องสามารถทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและเกิดความภักดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของเรา เพื่อความยั่งยืนของตัวธุรกิจเอง ซึ่งในปัจจุบันด้วยความทันสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จึงเกิดช่องทางการสื่อสารและประชาสัมพันธ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Social Media หรือ E-commerce Platform ซึ่งไม่ได้มีเพียงการตลาดแบบออฟไลน์อีกต่อไป และการตลาดออนไลน์ ยังเป็นการตลาดที่มาแรงมากที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจ ล้วนกระโดดเข้าสู่ยุคแห่งการตลาดออนไลน์แล้วทั้งสิ้น
ทักษะการขายและเจรจา (Sales Skill)ถึงแม้สินค้าและบริการหลากหลาย มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แต่หากผู้ขายหรือเจ้าของธุรกิจขาดทักษะการขายที่ดีและสื่อสาร การเจรจาด้วยวาทะศิลป์ที่ยอดเยี่ยม สินค้าและบริการนั้นก็จะกลายเป็นเพียงแค่สินค้าธรรมดาที่ไม่ได้มีความน่าสนใจ ซึ่งสิ่งที่นักขายจำเป็นต้องมีและเข้าใจ นั่นก็คือ
- เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร
- ให้ข้อมูลสินค้าและความรู้ในการใช้งานสินค้าให้กับลูกค้าได้
- ทักษะของตัวเลข ในการคำนวณความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้เห็น
- ไม่ละเลยลูกค้าในทุกขั้นตอนตั้งแต่ก่อนและหลังการขาย
- มีความจริงใจต่อลูกค้าและรักษาวาจาของตนเอง
- มีทักษะการฟังที่ดีและใช้จังหวะน้ำเสียงที่น่าฟัง
- สร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับลูกค้า
ซึ่งทักษะทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือทักษะพื้นฐานที่นักขายหรือเจ้าของธุรกิจพึงมี เพราะนอกจากจะสามารถช่วยให้ขายสินค้าได้แล้ว ยังทำให้ลูกค้าได้เห็นถึงความใส่ใจในการบริการและความจริงใจที่มอบให้อีกด้วย
รู้เรื่องกฎหมายสำหรับการเปิดโรงงานสำหรับการเปิดโรงงาน จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายด้วย ซึ่งมีกำหนดแบ่งโรงงานออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ
โรงงานประเภทที่ 1 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาด ที่สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ทันที
โรงงานประเภทที่ 2 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาด ที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงาน ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบก่อน
โรงงานประเภทที่ 3 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่การตั้งจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้
ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการควบคุมและการป้องกันความเดือดร้อน รำคาญการป้องกันความเสียหายและการป้องกันอันตรายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนหรือสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น
ทักษะการบริหารและจัดการ (Management Skill)การบริหารและการจัดการธุรกิจที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจขาดทักษะเหล่านี้ มักจะพบกับปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ หรืออาจพบกับความล้มเหลวในธุกิจได้เช่นกัน ซึ่งทักษะการบริหารและจัดการ (Management Skill) มีดังนี้
- มีทักษะการวางแผนงานและการดำเนินการภายในธุรกิจของตนเอง รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
- สามารถบริหารจัดการเวลาได้ดี รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดี
- สามารถจัดระเบียบทรัพยากรและทุนที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาจเริ่มจากการกำหนดต้นทุนหรือสิ่งที่ต้องใช้สำหรับโครงการก่อนเริ่มทำงาน
- มีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับธุรกิจของตนเอง
- มีความเป็นผู้นำและบริหารทีมงานได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพ ชัดเจนและตรงไปตรงมา
- ไม่หยุดพัฒนาตนเองในทุกๆ ด้านที่เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ
หากคุณคือผู้ประกอบกิจการโรงกลึง หรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาหรือต้องการใช้งานเครื่องจักรกล (Machine Tools) ในการผลิตชิ้นงาน MINSEN MACHINERY ยินดีให้คำปรึกษาและบริการ ซึ่งเราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมและให้บริการออกแบบรวมทั้งติดตั้งเครื่องจักรในกลุ่มของ Metal Cutting และ Sheet Metal เช่น เครื่องตัดพับ (Cutting tools) เครื่องกลึง เครื่องเจาะ เครื่องเจียร (CNC machining center) และสินค้าอีกมากมายที่เป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงมากว่า 67 ปี ซึ่งเราเอาความสำเร็จของลูกค้าเป็นที่ตั้งในการพัฒนาทีมงานให้มีทักษะและมีความเชี่ยวชาญ เป็นมืออาชีพ สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ เราประสานงานกับผู้ผลิตเครื่องจักรระดับโลกหลากหลายแบรนด์ เพื่อจัดฝึกอบรมทีมวิศวกรและช่างเทคนิคให้มีความรู้และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนการผลิตของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
ราส่งมอบเครื่องจักรคุณภาพสูงและการบริการที่ได้มาตรฐานให้แก่ลูกค้าหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมระบบราง อุตสาหกรรมการธนาคาร อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รวมทั้งภาคการศึกษา นับเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย หากคุณสนใจติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาและสั่งสินค้าจากเรา คลิก